วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มหาพีระมิดแห่งกิซา : มรดก แห่งฟาโรห์ มหาพีระมิดแห่งฟาโรห์คูฟูเป็นประจักษ์พยานอยางดีถึงวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญอย่างสูงในเชิงช่างของชาวอียิปต์โปราณ และนับเป็นอย่างเดียวในเจ็ดมหัศจรรย์บนพื้นพิภพที่ยังคงสภาพเดิมแทบไม่บุบสลาย หลังจากยืนหยัดมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ มหาพีระมิดสามองค์แห่งกิซาตั้งตระหว่านอยู่ท่ามกลางท้องทะเลทรายอันกว้างใหญ่ห่างจากกรุงไคโรออกไปประมาณ 8 กม. มหาพีระมิดเหล่านี้รายล้อมด้วยพีระมิดและสุสานอื่น ๆ รวมทั้งรูปปั้นสฟิงซ์อันยิ่งใหญ่ สิ่งมหัศจรรย์ของอารยธรรมเก่าแก่นี้อยู่ยืนยงมากกว่า 5,000 ปีแล้ว แต่นักโบราณคดีเริ่มสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวความเป็นมาของสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่นี้ได้เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 นี้เอง เมืองกิซาตั้งอยู่ปลายสันดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นเครื่องกำหนดเขตแดนของอาณาจักรอียิปต์บนและล่าง ต่อมาเมื่ออาณาจักรทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเมื่อ 2,925 ปีก่อนคริสต์กาล จึงมีการตั้งเมืองหลวงใหม่ที่เองเมมฟิสทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำไนล์ เมืองนี้เป็นที่ประทับของฟาโรห์แห่งแห่งราชวงศ์ต่าง ๆ 30 ราชวงศ์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3,000 ปี พีระมิดแห่งกิซาสามองค์ก่อสร้างขึ้นใน
ราชวงศ์ที่ 4 เมื่อประมาณ 2575-2465 ปีก่อนคริสต์กาล องค์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดือ พีระมิดของฟาโรห์คูฟูที่เฮโรโดดัสนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกเรียกว่า กษัตริย์คืออปส์ องค์กลางซึ่งสร้างเป็นลำดับถัดมามีขนาดย่อมกว่า เป็นของฟาโรห์คาฟเร หรือเคเฟรีนผู้เป็นพระโอรส องค์ที่สามซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามากเป็นของฟาโรห์เมนเกาเร หรือไมเซรินุสซึ่งเป็ฯพระนัดดา ชาวอียิปต์โปราณเชื่อว่าฟาโรห์เป็นสมมุติเทพ เมื่อสิ้นพระชนม์ก็ย่อมกลับสู่เทวโลกรวมกับเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ที่พวกเขาเคารพบูชาเช่น เทพโอซิริสและเทพอะนูบิส ผู้ตัดสินบาปบุญคุณโทษของดวงวิญญาณ ด้วยความเชื่อนี้ ฟารโรห์ของอียิปต์จึงสร้างสุสานเตรียมไว้เป็นห้องขุดใต้ดินขนาดมหึมา ห้องกับต่าง ๆ บรรจุข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์สำหรับใช้ในปรโลก เช่นอาหาร เครื่องใช้และเครื่องประดับ สุสานเหล่านี้ตั้งอยู่ริม